[Ch3] Plub Plerng See Chompoo (Guts Entertainment)

little22

sarNie Juvenile
Wow havent seen Amm n,ek dad wife for a long time since her she used to be nang nek back in the days. She still pretty probabably 40 years old or close. Anybody knows she's if she married and have kids? What else she does? A bussiness?
 

Step

Mrs James Ma

เมคอัพพังแจ้งเกิด "ไอซ์ อามีนา" นางเอกป้ายแดงขอโอกาสพิสูจน์ฝีมือ


เรียกว่าเป็นกระแสทลอค์ออฟเดอะทาวน์ในโลกโซเชียลตั้งแต่วันแรกที่ละคร "พลับพลึงสีชมพู" ออกอากาศกับประเด็นเมคอัพแต่งหน้าที่พลาดและพังของนางเอกในเรื่องที่ถูกนำไปเปรียบต่างๆ นานากันอย่างสนุกสนาน แต่ที่หนักสุดๆ เลยนั้นคือการวิจารณ์ไปถึงเรื่องการแสดงของนางเอกสาว "ไอซ์ อามีนา กูล" ที่ฝีมือการแสดงยังไม่โดดเด่นจะขึ้นแท่นนางเอกและด้วยการที่เธอตกเป็นกระแสพูดถึงล้นหลามในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในสัปดาห์นี้ทีม Sanook! News จึงคว้าตัวเธอมานั่งเปิดใจพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่แรกหลังจากที่เธอเจอกระแสเจอกระแสต่างๆ ถล่มเข้ามามากมายเธอนั้นรู้สึกอย่างไรและอยากจะบอกอะไรถึงคนที่วิจารณ์ผลงานของเธอและพลาดไม่ได้กับพูดคุยแบบล้วงลึกเพื่อทำความรู้จักตัวตนของเธอที่หากได้รู้แล้วคุณอาจจะตกหลุมรักนางเอกป้ายแดงคนนี้ก็เป็นได้

น้อมรับทุกคำวิจารณ์เพื่อพัฒนาและปรับปรุง
ถามถึงประเด็นโดนวิจารณ์เรื่องเมคอัพของนางเอกในละคร "พลับพลึงสีชมพู" ที่ถูกนำไปเปรียบกับละครลิงนั้นสาวไอซ์บอกกับทีมข่าวบันเทิง Sanook! News แบบขำๆ ว่าเธอไม่ได้รู้สึกตกใจหรือเสียเซลฟ์กับคำวิจารณ์อะไรมากแต่กลับมองไปในมุมที่รู้สึกอยากขอบคุณที่ผลงานละครการเป็นนางเอกเต็มตัวของเธอเรื่องแรกนั้นมีการถูกพูดถึงตั้งแต่วันแรกที่ออนแอร์ซึ่งนั้นอาจจะเป็นการส่งผลให้คนอยากไปติดตามละครมากขึ้น
"เรื่องเมคอัพก็รู้สึกขำๆ ดีค่ะเพราะส่วนตัวคิดว่าให้เขาวิจารณ์เราดีกว่าไม่มีกระแสอะไรเลย อย่างน้อยก็เป็นอะไรที่โอเคเราเห็นและเราไม่ได้ตกใจแบบถึงขั้นแบบเสียเซลฟ์ ทุกคนจะเป็นห่วงจะถามไอซ์เป็นยังไงไอซ์นอยด์หรือเปล่าไอซ์โอเคมั้ยซึ่งจริงๆ ไอซ์โอเคมากๆ นะกับการที่มีคนพูดถึงเยอะขนาดนี้ ยิ่งไอซ์เห็นรูปมีการเอาเปรียบไปเทียบกับลิง ซึ่งเห็นแล้วมันก็ตลกดีนะเขาก็เข้าใจคิดกันได้มันก็ดีที่คนพูดถึง และก็ดีมากที่ละครเป็นที่รู้จักและพูดถึงแค่ออนแอร์ไปในตอนแรกซึ่งไอซ์ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่วิจารณ์ด้วยและไอซ์คิดว่าทุกอย่างมันมีข้อผิดพลาดกันได้ แต่ถ้าเราคิดในแง่บวกมันก็ทำให้ละครเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นค่ะ" และเธอยังเล่าต่ออีกว่า

"ส่วนตัวได้ดูละครวันแรกด้วยเหมือนกันก็ไม่ได้คิดอะไรคือจะบอกว่าพลับพลึงสีชมพูแก้มเราก็ต้องเป็นสีชมพูสิ (หัวเราะ) อันนี้ขำๆ นะคะเหตุผลส่วนตัว แต่คนรอบตัวๆ รอบข้างจะคิดว่าไอซ์นอยด์ เขาก็จะมีถามว่าเป็นไงบ้างไอซ์ก็งงๆ เป็นอะไรคือไอซ์ไม่ได้เล่น เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ แต่คนรอบๆ ตัวเราที่เล่นเขาเห็นกันเขาก็มีส่งกันมาให้ดูก็ถามมาว่าไอซ์โอเคมั้ย ไอซ์โอเคมากๆ เพราะคนพูดถึงเยอะคนรู้จักเราจากกระแสแบบนี้และจะทำให้คนที่เขาไม่รู้ไปดูละครของเราในตอนต่อๆ ไป ถ้าเราคิดในแง่บวกมันก็จะเป็นการส่งเสริมให้ละครเรามีคนดูมากขึ้นและไอซ์เชื่อว่าละครในตอนต่อๆ ไปมันไม่ได้เป็นแบบนี้อันนี้มันเป็นวันแรกที่เราถ่ายทำด้วยอะไรๆ มันก็เลยอาจจะยังไม่ลงตัวค่ะ"
 
http://news.sanook.com/1911387/
ละครยุคใหม่ถูกจับผิดในโลกโซเชียล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าระยะหลังๆ ละครในยุคปัจจุบันนี้มักจะถูกนำมาพูดถึงกันในโลกโซเชียลชนิดที่ว่าออนแอร์ไปวิจารณ์ไปแบบตอนต่อตอน และภาพรวมส่วนใหญ่มักจะเป็นการจับผิดมากกว่าชื่นชมและแน่นอนว่าสาวไอซ์ก็คือหนึ่งในนักแสดงที่โดนพูดถึงในโซเชียลไม่น้อยเช่นกัน
"สำหรับไอซ์ไม่ได้มองว่ามันทำให้เรารู้สึกกดดันไอซ์คิดแค่ว่ามีคนพูดถึงดีกว่าไม่มีคนพูดถึง มีคนติมีคนว่าดีกว่าไม่มีคนพูดอะไรเลย ถ้าเขาติเขาว่าเขาเอาไปพูดอะไรก็ตามแสดงว่าเขาดูละครของเราและอีกอย่างเขาอาจจะอยากเห็นอะไรในละครเรามากขึ้นบางสิ่งบางอย่างที่เขาติมันอาจจะเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่านี่คือสิ่งที่เราตกหล่นไปเราอาจจะต้องเพิ่มมากขึ้นเพราะว่าคนเรามันไม่สามารถจะเห็นตัวเองได้อยู่แล้ว และไม่สามารถที่จะทำงานด้วยกลุ่มคนเล็กๆ เช่นกัน เราต้องรู้จักการรับฟังจากกลุ่มคนใหญ่ๆ ด้วย พลับพลึงสีชมพูก็เป็นละครเรื่องแรกที่เป็นนางเอกเต็มตัวของไอซ์ก็อยากให้ทุกคนให้โอกาสในการพัฒนาฝีมือการแสดงและอยากให้รอดูในเรื่องต่อๆ ไปของไอซ์นะคะว่ามันจะเป็นยังไง อย่าเพิ่งรีบตัดสินกันเลยไอซ์รู้ว่ามันยังไม่ได้ดีมากสำหรับทุกคนแต่มันก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ อยากจะให้ทุกคนลองให้โอกาสและสัญญาว่าจะพัฒนาให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ"
http://news.sanook.com/1911387/
การเปลี่ยนแปลงหลังเป็นนางเอกเต็มตัว
แน่นอนว่าหลังจากที่ละครพลับพลึงสีชมพูที่สาวไอซ์รับบทนางเอกนั้นออกอากาศไปสิ่งที่ตามมาก็ย่อมคือการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ส่งผลกลับมาโดยเธอบอกว่าตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนก็เริ่มมีคนเข้ามาทักทายและพูดถึงผลงานมากขึ้น
"ก็มีคนทักมากขึ้นนะคะบอกว่าพลับพลึงน่ารักนะชอบตอนที่เป็นพลับพลึง อย่างตัวสโรชาก็ดูมั่นใจดีนะ ก็รู้สึกโอเคนะและเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกที่เล่นเป็นนางเอกเต็มตัวซึ่งตอนแรกๆ ก็กดดันนะคะการเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกเพราะว่าไอซ์อยากทำออกมาให้ดีที่สุดละครเรื่องนี้ถ่ายไปพร้อมๆ กับละครเรื่องสามใบไม่เถา แต่เรื่องพลับพลึงสีชมพูไอซ์รับบทสองคาแร็คเตอร์มีบทเยอะมันก็เลยรู้สึกว่าอยากทำให้มันออกมาดีที่สุดอยากทำให้มันเต็มที่ให้คนคิดว่าไม่ได้แย่มากแต่ก็ยังไม่ดีมากๆ สำหรับใครหลายๆ คนนะคะ ยังไงก็ต้องฝากด้วยเพราะไอซ์ก็ยังไม่ได้เก่งมากแต่โชคดีที่ได้ทีมงานและนักแสดงที่เก่งๆ ค่ะที่ค่อยช่วยเรื่องอารมณ์การต่อบทก็ช่วยได้เยอะพอหลังๆ มันก็ดีขึ้นๆ ไปตามสเต็ปค่ะ"
http://news.sanook.com/1911387/
รู้จักนางเอกป้ายแดง ไอซ์ อามีนา
สาวไอซ์เล่าคราวๆ ว่าเธอเป็นลูกครึ่งมีคุณแม่เป็นคนไทยและลูกเสี้ยวฮอลล์แลนด์ส่วนคุณพ่อเป็นคนปากีสถานปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ปีที่สองที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ และก่อนหน้านี้เคยมีผลงานละครสามใบไม่เถาที่คนดูจะจำเธอได้ในคาแร็คเตอร์ตัวละครมากกว่าตัวจริง
"ไอซ์เข้าวงการมาช่องสามเรื่องแรกเลยก็คือเรื่องตะวันฉายในม่านเมฆไอซ์เล่นเป็นคู่สองและก็หยุดไปเรียนซักพักและก็มีงานถ่ายแบบถ่ายโฆษณาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้ทำงานในวงการแบบจริงจังและมาเรื่องสามใบไม่เถาที่เวลาออกไปข้างนอกคนจะจำได้ว่าเป็นใครแต่ว่าจะจำได้ต่อเมื่อไอซ์ไม่แต่งหน้าและมัดผม อันนี้ก็จะงงๆ คนจะชอบเข้ามาขอถ่ายรูปตอนที่อยู่ในสภาพที่ตัวเองไม่สวยแต่คนจะบอกว่าสวยๆ น่ารักๆ เพราะมันเหมือนในละครและยิ่งถ้าแต่งหน้าเข้มคนจะยิ่งจำไม่ได้เพราะไม่มีใครห็นไอซ์แต่งหน้าเข้ม 
ส่วนไลฟ์สไตล์ชีวิตจะเป็นคนที่ชอบและสนใจในเรื่องการทำบุญเคยถึงขนาดที่โดนเพื่อนแซวจะเป็นแม่ชีหรอ ชอบทำหนังสือสวดมนต์ ชอบไปช่วยงานวัด ที่ชอบเพราะมันทำแล้วมันสงบมันแค่รู้สึกว่าเวลาที่เราทำอะไรพวกนี้แล้วเราสบายใจเวลาที่เราเครียดๆ หรือเวลาที่เราไม่มีกำลังใจเราอ่านหนังสือสวดมนต์หรือหนังสือธรรมมะสิ่งนี้มันทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้นเยอะมากๆ มันเอามาใช้ในเรื่องของการแสดงทำให้เรามีสมาธิ ทำให้เรามองโลกบวกๆ ซึ่งปกติก็มองโลกบวกอยู่แล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยเครียดกับชีวิต
http://news.sanook.com/1911387/
ต่อให้เจอข่าวต่างๆ ก็ธรรมมะนี่แหละช่วยไอซ์ได้เยอะมากมันทำให้ตัวเรารู้สึกว่าทุกอย่างมันมีคนชอบมันก็ต้องมีคนไม่ชอบและก็เข้าใจชีวิตขึ้นมากๆ และก็ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องมานั่งเครียดเพราะทุกๆ วันของเรามันก็ดำเนินไปวันนี้เป็นอย่างนี้พรุ่งนี้มันก็เป็นอย่างนี้มันไม่มีทางที่จะเป็นเส้นตรงมันมีขึ้นลงๆ ไปเรื่อยๆ คิดบวกๆ ไปเลยค่ะ วันนี้ไม่ดีแล้วเอาไปคิดต่อพรุ่งนี้มะรืนนี้ซึ่งมันจะเป็นความคิดที่ทำให้ตัวเราจมปรัก และมันจะทำให้วันต่อๆ ไปมันจะส่งออกไปถึงการกระทำมันก็จะออกมาไม่ดี เพราะเรารู้สึกว่าฉันทำเมื่อวานไม่ดีวันนี้ก็จะออกมาไม่ได้ คนเราทุกอย่างอยู่ที่จิตใจและก็อยู่ที่ความมั่นใจของเรามากกว่าค่ะ"
และจากการพูดคุยกับนางเอกป้ายแดงคนนี้ทำให้เราเห็นว่าแม้เธอจะเจอกระแสวิจารณ์อย่างหนักแต่นั้นกลับเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้นำมาบั่นทอนความรู้สึกตัวเองและเลือกที่จะปรับปรุงแก้ไข และเราในฐานะคนดูต้องกลับมาย้อนถามตัวเองกันให้ดีว่าสำหรับนางเอกน้องใหม่คนนี้ที่มีความตั้งใจและพร้อมพัฒนาตัวเองนั้น "โอกาส" คงเป็นสิ่งที่ไม่มากเกินไปหรือไม่ที่จะให้กับเธอ
 
cr sanook
 
Top