stars new 2549

KEO

sarNie Egg
รวมเด็ดสุดยอดบันเทิง 2549


วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ เผลอแผล็บเดียวก็จะผ่านไปอีกปีแล้ว ในปี 2549 ที่ผ่านมา แวดวงบันเทิงก็มีหลายๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้น และสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปไม่ซ้ำ ทั้งเรื่องดีและร้าย อีกหลายต่อหลายเรื่องที่ยังช็อกความรู้สึกของประชาชนคนที่นิยมการเสพสื่อบันเทิง ThaitownUSA รวบรวมเรื่องราวเด็ดๆ ที่เคยเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ มาให้ทบทวนความทรงจำ ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเป็นเพียงแค่อดีต



1. “แหม่ม-คัทลียา” ซมซานกลับไทย

หลังจากสร้างปรากฏการณ์ “เบนโล” หรือ ป่องแล้วปิด จนสะท้านเมือง วันที่ 15 มี.ค. 2549 แหม่ม-คัทลียา พร้อมสามี “สงกรานต์ กระจ่างเนตร” และลูกชาย “น้องแม็ค” ก็เดินทางจากสหรัฐฯมายังเมืองไทย จากที่เคยให้ข่าวว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนและรอจนกว่าลูกชายจะโต การกลับมาครั้งนี้ของอดีตเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงสร้างความโกลาหลให้กับสื่อเป็นอย่างมาก มีการแห่ไปทำข่าวกันเนืองแน่นถึงสนามบินดอนเมือง พร้อมกับมีการตีข่าวกันอย่างครึกโครม อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน


2. “เต๋า-นัท” เตียงหัก

ทำท่าง่อนแง่นมานาน ในที่สุดความรักระหว่างนักร้องดัง “เต๋า-สมชาย เข็มกลัด” และ “นัท-มีเรีย” ก็จบลงอย่างป็นทางการ ทั้งคู่ได้จูงมือเข้าวิวาห์กันตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2546 ท่ามกลางความอิจฉาของใครหลายๆ คน เนื่องจากทั้งสองได้คบหาเป็นแฟนกันมานาน แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็มีปัญหารักร้าวออกมาเรื่อยๆ แต่ทั้งสองก็ออกมาปฏิเสธตลอดเวลา ก่อนจะออกมายอมรับในที่สุดว่าได้แยกกันอยู่ และตามมาด้วยการหย่าขาดจากกัน



3. “ฟิล์ม” เด็ก “เสี่ยพระเครื่อง”

เป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ช็อกวงการ เมื่อ “เสี่ยอู๊ด-สิทธิกร บุญฉิม” เศรษฐีหนุ่มใหญ่ เจ้าของธุรกิจพระเครื่อง ออกมาแฉสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระเอกนักร้องเนื้อหอมที่กำลังฮอทสุดๆ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” แต่ตอนแรกหนุ่มฟิล์มปฏิเสธเสียงแข็ง ทำให้เสี่ยอู๊ดโกรธจัดตามฟัดไม่เลิก จนสุดท้ายหนุ่มฟิล์มถึงออกมายอมรับ แต่ยืนยันว่าไม่เคยมีสัมพันธ์ทางเพศแต่อย่างใด การออกมา “แฉ” ของเสี่ยใหญ่รายนี้ ทำให้นักร้อง-นักแสดงหนุ่มๆ ในวงการถึงกับหนาวๆ ร้อนๆ หลายรายถูกต้นสังกัดตัดเชือก เพราะเคยมีสัมพันธ์กับเสี่ยคนดัง



4. สาว 17 มั่วนิ่ม ลูกในท้อง “แด๊ก บิ๊กแอส” ไม่ใช่พ่อ

หลังจากเรื่องยืดเยื้อมาตั้งแต่ปลายปีก่อน เมื่อนางแบบสาวเซ็กซี่ วัย 17 ปี “ฝ้าย-สุวรรณรี ไชยมงคล" ได้ออกมาแฉพร้อมยื่นฟ้อง “แด๊ก-เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด" นักร้องนำวงร็อกชื่อดัง “บิ๊กแอส" สังกัดแกรมมี่ฯ ภายหลังมีเพศสัมพันธ์กระทั่งมีบุตรออกมาด้วยกันหนึ่งคนคือ “น้องจัสติน" ซึ่งขณะนั้นมีอายุได้ 4 เดือน ทว่าฝ่ายชายไม่ยอมรับกระทั่งนำมาซึ่งการท้าพิสูจน์ตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาความจริง จนกระทั่งเมื่อทางโฆษกของโรงพยาบาลตำรวจได้ออกมาเปิดเผยผลการตรวจอย่างเป็นทางการว่า ดีเอ็นเอไม่มีความสัมพันธ์กัน ทำให้ช็อกวงการ และ นักร้องหนุ่มพ้นข้อหาไข่แล้วทิ้งไปอย่างหวุดหวิด



5. เปิดตัวสะใภ้ (อดีต) นายกฯ

แจ้งเกิดจาก “รถถัง”งจนโด่งดังกว่าข่าวปฏิวัติก็ว่าได้ สำหรับนางเอกสาว “หยาดทิพย์ ราชปาล” กับ “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” ที่ฝ่ายหญิงตกเป็นข่าวเป็นว่าที่ลูกสะใภ้นายกฯได้ไม่ทันไร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็กระเด็นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ถือเป็นหญิงสาวคนเดียวที่ได้ขึ้นหน้าหนึ่งควบกับข่าวการเมืองมากที่สุด และถูกพูดถึงมากที่สุด



6. ชาคริต “ชิ่ง” จักจั่น

หลังควงคู่ประกาศแต่งงานแบบสายฟ้าแลบจนเป็นข่าวช็อกวงการบันเทิงพอสมควร สำหรับดาราสาว อคัมย์สิริ สุวรรณศุข หรือ “จักจั่น” กับพระเอกหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” จนกระทั่งมีข่าวลือในช่วงหลังว่า ชีวิตรักของหนุ่มชาคริต และสาวจักจั่นอาจไปไม่ถึงฝั่ง เนื่องจากทั้งคู่มีปากเสียงกันเป็นประจำ แม้ว่าทั้งสองคนจะยืนยันว่า ความรักยังหวานชื่นอยู่ ล่าสุดข่าวรักร้าวดังกล่าวเป็นจริงขึ้นมาเมื่อทั้งสองคนออกมายอมรับว่า ความรักของทั้งคู่จบลงแล้ว



7. “ฟลุค-เกริกพล” กิ๊ก “พี่เมีย”

คงไม่มีครอบครัวไหนอลเวง เท่ากับครอบครัว “มัสยวานิช” แล้ว ก็น้องเขยดันไปมีข่าวกับพี่เมีย ทั้งที่ฟลุค-เกริกพล มัสยวานิช ก็ออกมาเปิดอกพูดถึงความสัมพันธ์กับ “แบม-จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์” ว่า เป็นแค่ญาติกัน ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่หลังจากมีข่าว แทนที่ทั้งคู่จะอยู่ห่างกันสักพัก กลับควงกันไปไหนมาไหน แบบไม่ไยดีสายตาคนที่พบเห็น บางครั้งถึงกับมีภาพปาปารัซซี่ออกมายืนยัน ว่า ข่าวที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากการนั่งเทียน เขียนข่าว ถึงกระนั้นอดีตคาสโนว่า ก็ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่ล่าสุดยังไม่ทันข้ามปีคาสโนว่าก็ควง “พี่เมีย” สวีทอีกรอบด้วยการไปซื้อรถเบนซ์



8. ช็อก “อ๊อฟ อภิชาต” ลาโลก

กลายเป็นข่าวช็อกวงการบันเทิงอีกแล้วกับการจากไปอย่างกะทันหันของนักแสดงชื่อดัง “อ๊อฟ-อภิชาติ พัวพิมล” เจ้าของฉายา “คีอานู รีฟ” เมืองไทย ในบ้านพักของตนเองย่านถนนสุขาภิบาล 3 โดยจากคำบอกเล่าของ “นางสีดา พัวพิมล” ผู้เป็นมารดาของหนุ่มอ๊อฟยืนยันว่าบุตรชายของตนเองนั้นเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวทั้งหืดหอบและเส้นเลือดหัวใจตีบ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติดอย่างแน่นอน



9. ซวยส่งท้ายปี “หน่อย-เคน” โดนขโมยขึ้นบ้าน
ความรักระหว่างแฟนสาว หน่อย-บุษกร พรวรรณะศิริเวช ที่ยังราบรื่นชื่นมื่นสวนกระแสคู่รักดาราอื่นที่เลิกเอาๆ จะมีแค่เรื่องเดียวที่ถือเป็นโชคร้าย นั่นคือถูกหัวขโมยขึ้นบ้าน ยกเค้าเอาทรัพย์สินไปได้เฉียดล้านบาท เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้หมอดูต้องออกมาฟันธงว่าทั้งคู่ต้องเร่งวิวาห์กันภายในปีหน้า มิเช่นนั้นชีวิตรักจะลุ่มๆ ดอนๆ ไม่ฟู่ฟ่า แถมยังมีเรื่องปวดหัวมาไม่หยุด



10. พลิกโผแห่งปี “แหม่ม-จินตหรา” ซิวตุ๊กตาทอง

จากการประกาศรางวัลพระสุรัสวดีหรือ “ตุ๊กตาทอง” ประจำปี 2549 ผลปรากฏว่า “แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์” และ ด.ช.ชาลี ไตรรัตน์ ได้รับรางวัล ดารานำหญิง-ชาย จากภาพยนตร์เรื่อง “เด็กหอ” ไปครอง โดยปีนี้มีภาพยนตร์เข้าพิจารณา 42 เรื่อง ขณะที่ผลรางวัลมี 16 สาขา สำหรับ “แหม่ม-จินตหรา” ถือเป็นปีทองของนางเอกรุ่นใหญ่ หลังจากสร้างชื่ออีกครั้งจากละครราชินีหมอลำ ทางช่อง 3










เป้” เผย ยังรัก “ษา” หมดหัวใจ แต่ฝ่ายหญิงอยากเลิก
และแล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อดาราสาวเซ็กซี่ "ษา-วรรณษา ทองวิเศษ" ออกมายอมรับสภาพ “เตียงหัก” กับสามีนักร้อง "เป้ ไฮร็อก" หลังจากที่ถูกทำนายทายทักมาตั้งแต่เมื่อครั้งคบหากันว่าไปไม่รอด

ท่ามกลางกระแสข่าวของการเลิกรากันครั้งนี้ บ้างก็ว่าเกิดจากปัญหา “แม่ยาย-ลูกเขย” เนื่องจากมีข่าวว่า “นางเบญจพรรณ วงศ์ทอง” มารดาของ “วรรณษา” ไม่เห็นด้วยกับการใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้มาตั้งแต่แรก เพราะไม่ปลื้มในตัวของ “เป้” เหตุจากฝ่ายชายเหมือนคนหลักลอย แถมยังมีพันธะเป็นลูกติดถึงสองคน ในขณะที่ลูกสาวมีชื่อเสียงและรายได้มากกว่า ???

ก่อนหน้านี้ “วรรณษา” เคยออกมาโต้ข่าวถูกสามี “เกาะกิน” ว่า อยากให้สื่อให้เกียรติ “พี่เป้” เนื่องจากระยะหลังฝ่ายชายไม่ค่อยมีผลงานในวงการบันเทิงออกมา ภาพดังกล่าวดูเหมือนไม่ให้ความยุติธรรมกับฝ่ายชาย ในขณะเดียวกัน เมื่อมีข่าวร้าวฉานขึ้นมาครั้งใด ฝ่ายหญิงก็จะเป็นคนออกมาเคลียร์ใจผ่านสื่อเองทุกครั้ง จนกระทั่งออกมายอมรับความจริงในที่สุด

ล่าสุด “เป้-ไฮร็อก” หรือ “สุรัช ทับวัง” ผู้เป็นสามีขอเปิดใจบ้าง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยากให้มองเป็นเรื่องของคนสองคน การใช้ชีวิตคู่ย่อมเหมือนลิ้นกับฟัน และเหตุการณ์ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด???

“ผมเองก็ไม่สบายใจเรื่องของข่าว เพราะมันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ๆ นักข่าวเขียนกันเลย หนังสือบางเล่มบอกว่าเรื่องนี้มีคุณแม่ของษาเข้ามาเกี่ยว เป็นมือที่สาม ทำให้ษากับคุณแม่เครียดมาก จนผมสงสารเค้า ทั้งที่จริงๆ แล้วเกิดจากความไม่เข้าใจของผมกับษาในบางเรื่อง เป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัวเข้าหากัน”

“เป้-ไฮร็อก” กล่าวต่อไปอีกว่า ยอมรับว่าขณะนี้ได้แยกกันอยู่กับภรรยาจริง

“มันเป็นการถอยห่างกันคนละก้าว ผมกับษาแยกกันอยู่ได้เดือนกว่าๆ แล้ว แต่ไม่อยากใช้คำว่าเลิกรา ตอนนี้ลูกอยู่กับษา เพราะผู้หญิงย่อมจะมีความละเอียดอ่อนมากกว่า เขาคงดูแลลูกได้ดีกว่าผม ตอนนี้ผมต้องทำงาน เลิกงานไม่เป็นเวลา ษาน่าจะมีความพร้อมกว่าในหลายๆ ด้าน”

นักร้องพ่อลูกอ่อนตัดพ้อว่าไม่อยากให้สังคมมองว่าตนเป็นผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ และยืนยันว่าตนไม่เคยทอดทิ้งลูกแต่อย่างใด

“มีหนังสือเล่มหนึ่งเขียนว่าผมทิ้งลูก เพราะเคยล้มเหลวกับชีวิตคู่มาแล้วครั้งหนึ่ง ผมขอยืนยันว่าผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมรักลูกผม รักภรรยาของผม และผมยังรักษาหมดหัวใจ และยังรอให้เรากลับมาคุยกันอีกครั้งหนึ่งครับ”



พีท” ขอเคลียร์ “ผมไม่ใช่พระเอกขี้โกง”



เคยเกิดกรณีพิพาทขึ้นเมื่อเกือบ 3 ปีก่อนเมื่อครั้งที่ "พีท ทองเจือ” ทำหนังเรื่อง "จังหวัดที่ 77" ซึ่งมี “ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม” และน้องชาย "ไมค์ กิ่งโพยม" ร่วมแสดงด้วย ครั้งนั้นตกเป็นข่าวใหญ่ว่า “พีท” เบี้ยวไม่จ่ายค่าตัว

ครั้งนั้นเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเมื่อ “ลูกเกด” ออกมาเปิดเผยจนตกเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ว่า ได้รับการติดต่อจาก พีท ทองเจือ ว่า จะสร้างหนังเรื่อง จังหวัดที่ 77 อยากให้ร่วมแสดง และก็จะให้น้องชายตน ไมค์ กิ่งโพยม แสดงด้วย เรื่องนี้จะไปถ่ายที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา ตนเห็นว่าเป็นความตั้งใจของพีทที่อยากจะทำงาน ประกอบกับอยากจะช่วยเหลือน้องชาย จึงได้ตอบตกลงไปโดยคิดค่าตัวน้อยกว่าปกติที่เคยรับ ระหว่างถ่ายทำน้องชายก็ช่วยงานอื่นๆ ในกองถ่ายให้ด้วย พร้อมลดค่าตัวให้พิเศษ จนบัดนี้ยังไม่ได้รับเงินค่าตัว 1.7 แสนบาท เมื่อทวงแล้วไม่ได้เรื่องก็เงียบไปเพราะ “ลูกเกด” ไม่อยากฟ้องร้อง เนื่องจากไม่มีสัญญา ???

นอกจากนี้เรื่องยังซับซ้อนซ่อนเงื่อนเข้าไปอีก เมื่อมีข่าวออกมาว่า “พีท” ได้นำหนังเรื่องนี้ไปขายให้กับทางบริษัท ทราฟฟิคคอนเนอร์ ได้เงินถึง 30 ล้านบาท “ลูกเกด” จึงได้ติดต่อไปยังบริษัททราฟฟิคคอนเนอร์ ทางบริษัทแจ้งว่าได้จ่ายเงินไปให้กับพีทหมดแล้ว แต่เมื่อสอบถามไปทาง “พีท” ก็บอกว่าบริษัทยังไม่จ่าย ก็เลยไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี พอถามบ่อยๆ เข้า ด้วยความเหลืออดจึงประกาศไม่ขอร่วมงานกันอีกต่อไป นอกจากเป็นเพียงเพื่อนร่วมวงการและเพื่อนร่วมโลก
สุดท้ายหนัง “จังหวัดที่ 77” ที่ลงมือทั้งอำนวยการสร้างและกำกับเองฯ แป้กไม่เป็นท่า แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่เรื่องวุ่นๆ ก็ยังไม่จบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยตกเป็นข่าว “เบี้ยวค่าตัว” นักแสดงมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้นางแบบ “ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม” ถึงกับประกาศไม่เผาผี วันนี้ก็เป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง โดย “พีท” ออกมาเคลียร์ใจว่า ตนเป็นลูกผู้ชายพอและ “ขอออกมาพูดบ้าง”

การออกมาพูดผ่านรายการ “คุยแหกโค้ง" แฉถึงสาเหตุที่ไม่จ่ายค่าตัวให้ไมค์ว่า เป็นเพราะไมค์ไปทำความผิดบางอย่างที่อเมริกาซึ่งทำให้เกิดค่าเสียหาย จึงจำเป็นต้องหักจากค่าตัว ซึ่งทำเอาหลายคนสงสัยว่า ไมค์ไปทำความผิดอะไร และทำไมพีทเพิ่งออกมาพูดตอนนี้? มีเจตนาอะไร? ต้องการลบล้างตราบาปของตัวเองหรือเปล่า?

“พีท” เปิดใจว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ออกมาเจอสื่อ ถ้าใครที่ติดตามข่าว จะเห็นว่าตนมีแต่ข่าวแรงๆ ออกมา และจะไม่ออกมาต่อสู้สักเท่าไหร่ ที่ผ่านมาเป็นแค่เหตุการณ์หนึ่ง แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม ก็ไม่น่าจะออกมาเปิดเผย ส่วนเรื่องราวทั้งหมดตนเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มันเกี่ยวข้องกับเรื่องงาน ตอนนั้นในฐานะผู้บริหาร พอมีอะไรเกิดขึ้น ไม่อยากสร้างความเสียหายกับทุกฝ่าย อาจจะเป็นประเด็นที่น่าสนใจ แต่บางทีการเป็นดาราศิลปินมันก็ต้องมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี แต่ก็ไม่อยากให้พูดถึงด้านที่ไม่ควรพูด

“พีท” กล่าวต่อไปว่า “ตนไม่ชอบแก้ตัว คนแก้ตัวคือคนที่พยายามรักษาภาพของตัวเอง แต่ตนไม่รู้จะรักษาภาพทำไม ไม่ได้มีสังคมที่นี่ที่เดียว ระยะหลังไม่ค่อยได้ทำงานในวงการสักเท่าไหร่ ก็เลยไม่ชอบแก้ตัว แต่พอถึงเวลาที่โดนถามถึงงานที่เราทำหน้าที่รับผิดชอบ ก็ต้องเล่าให้ฟังว่าได้แก้ไขปัญหาไปแล้ว มันเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น และตนก็ได้รับผิดชอบสิ่งเหล่านั้นไป ซึ่งมันทำให้เกิดจำนวนเงินที่เค้าต้องชำระ ก็ชดใช้ด้วยค่าตัวของไมค์แต่เมื่อเรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว ทุกวันนี&#
 
Top